Door Plant วงอินดี้ร็อกมาแรงที่เปิดตัวด้วยเพลงเบดรูมป๊อปฟังสบายเมโลดี้น่ารัก เผยผลงานอัลบั้มเต็มจัดไปจุก ๆ 13 เพลง โดยนอกจากเพลงเก่าที่เคยปล่อยออกมาจะถูกเอามารวมแล้ว ยังมีเพลงใหม่ที่ซาวด์ดีไซน์น่าสนใจเต็มไปหมด
ธีมหลักที่ถูกเล่าในอัลบั้มนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกทุกคนขลุกตัวกันอยู่ในคอนโดแถวเมืองเองเพื่อทำเพลง เป็นที่มาของชื่ออัลบั้มที่ทีแรกเราก็สงสัยว่ามันต้องอ่านว่าอะไรนะ สุดท้ายก็ได้คำตอบว่ามันคือ Drowsiness of (คอน)Do(เมือง)Ek นั่นเอง
เราจะมาไล่เลียงกันไปทีละเพลง กดฟังประกอบที่เพลย์ลิสต์ด้านล่างนี้ได้เลย
DOOR PLANT
เพลงอินโทรเปิดอัลบั้มไร้เนื้อจังหวะสนุก ชวนนึกถึงอินดี้ร็อกยุค 2010s ประเภทวง Beach Fossils, DIIV, Surf Curse ที่โดดเด่นด้วยกีตาร์พลังงานพลุ่งพล่าน
SEED
ทักทายเราด้วยเสียงคลื่นกระทบฝั่งกับเบสฟุ้ง ๆ สไตล์ดรีมป๊อป ก่อนหวดเข้าอินโทรกีตาร์เมโลดี้เพราะ เสียงร้องสองเลเยอร์ภาษาอังกฤษที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่สำหรับวงนี้ แต่บรรยากาศต่าง ๆ และมู้ดที่ได้รับจากเพลงนี้มันสดชื่นมาก ชอบการเล่นคำที่เต็มไปด้วยตัว S ซึ่งร้องวนอยู่พักนึงจนเป็นอะไรที่ติดหู จบฮุกก็มีเสียงเพอร์คัสชันที่น่าสนใจมาก สามารถเร้าอารมณ์ส่งเข้าฮุกอีกท่อนได้ดี
I’m sorry to being bored of your loveliness
เมโลดี้กีตาร์แหลม ๆ ปลดปล่อยความสดใสสี่บาร์ก่อนเข้าเวิร์สฟังสบาย บรรเลงดนตรีอินดี้ร็อกสนุกไปสักพัก เราก็จับทางได้ว่าเมโลดี้ร้องชวนให้นึกถึงซาวด์แทร็กประกอบหนังวัยรุ่นยุค 2000s มาก ๆ ก่อนที่จะมีท่อนดรอปมาเป็นสโลวแจมชวนเอนหลัง นึกถึงวงเทือก ๆ Spiritualized ที่ตอนหลังปั่นฟัซเสียงฟุ้งชูเกซลอยละล่องทำนองนั้น เพราะมาก
ขอให้เธอ
เพลงที่เคยปล่อยไปก่อนหน้านี้และทำให้วงเป็นที่สนใจจากทุกหนทุกแห่ง อินโทรขึ้นมาเป็นบีตอิเล็กทรอนิกสดใส ก่อนโยนเข้าซาวด์กีตาร์ฟุ้ง ๆ เอกลักษณ์ของวง กลองเร้ากับเบสที่เคียงคู่กันมาทำให้ใจเราเต้นรัว เป็นเพลงภาษาไทยของวงที่เราชื่นชอบ คือสามารถเรียบเรียงท่อนฮุกได้ระรื่นหู แล้วยังแฝงท่อนจำที่ร้องขอให้เธอวน ๆ จนเราร้องตามได้ พวกลูกตอดกีตาร์ไลน์โซโล่มันน่ารักไปหมดเลยง่ะ แล้วยิ่งท้ายเพลงก็คือขโมยซีนไปเลย
เธอนั่นไง
อีกเพลงที่กระชากใจวัยมันไปได้แล้วก่อนหน้านี้ ดนตรีสนุกชวนดิ้น กลองเร้า ๆ กับเนื้อหาน่ารักชวนบิด พร้อมเสียงร้องประสานฮ้าฮาฟังแล้วใจฟูสุด ๆ แต่ในความหวานก็ไม่ลืมที่จะฝากกีตาร์ซิ่ง ๆ ตัดเลี่ยนกันก่อนเข้าพรีฮุกอีกท่อน มีท่อนพักก่อนเข้าโซโล่ที่กระตุกจิตกระชากใจ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าวงนี้เป็นอีกวงที่ไดนามิกของเพลงเหมาะเอาไปเล่นสดมาก และแน่นอน Door Plant เป็นหนึ่งในวงไทยที่เราเคยดูสดแล้วยอมรับว่า สนุกจริง
Shower now
กีตาร์เกาเมโลดี้เบา ๆ ขึ้นมาชวนนึกถึง ‘Babies’ ของ Pulp แบบนี้ก็ทำให้เราหัวโยกตัวโยนตามได้แล้ว เพลงนี้เราอาจจะเดาไปว่า เป็นตอนแชตคุยกับสาวแล้วสาวบอกว่าอาบน้ำแปป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการพูดถึงชีวิตวันวันนึงที่มีแต่สิ่งที่ต้องทำอะไรเต็มไปหมดก็ไม่รู้ รีบอาบน้ำแล้วออกมาปั่นงานกันต่อ ซึ่งเพลงเร็ว ๆ ก็บอกใบ้กลาย ๆ ถึงความรีบที่ใช้ในห้องน้ำได้ดี
I love to sleep more than you
ชอบชื่อเพลงมาก เพลงนี้ได้ Yonlapa มาช่วยร้องด้วย เป็นเพลงที่โดดเด่นในความเป็นโฟล์ก เบดรูมป๊อป ได้เสียงเครื่องสายและเสียงน้อยหน่ามาช่วยทำให้เพลงมีมวลอบอุ่น รู้สึกถึงที่นอนนุ่ม ๆ ไม่อยากจะลุกไปไหนเลยจริง ๆ แต่วงนี้เขาชอบมีเซอร์ไพรส์ หมดท่อนนี้ไปก็เป็นเสียงอู้อี้แทรกเข้ามาพร้อมกับเปียโนพริ้ม ๆ กลายมาเป็นดนตรี hypnagogic pop สุดหน่วงชวนลอยละล่อง พร้อมด้วยกีตาร์ jangle พาโยกไปเพลิน ๆ
Plum
ดนตรีจังหวะกลางได้ฟีลอัลเทอร์เนทิฟร็อก พ่วงด้วยซาวด์กีตาร์ซาวด์อู้พลันนึกถึงดรีมป๊อปสวย ๆ ประมาณเกือบสิบปีก่อน เสียงร้องที่ค่อนข้างชัดเจนเลยตัดมู้ดง่วงเหงาหาวนอนไปได้ แต่ที่น่าสนใจคือลีดกีตาร์บรรเลงโน้ตที่เพราะเอามาก ๆ จบฮุกไปก็ได้เจอกับดนตรีอุ่น ๆ ที่โอบอุ้มเราให้รู้สึกอบอุ่น แล้วยิ่งท่อนหลังก็ปล่อยให้เราเคลิ้มไปกับอารมณ์ฟุ้งฝันไปจนจบเพลง
Just Sometime
นี่น่าจะเป็นอีกเพลงนึงที่เราได้ฟังพวกเขาหวดกันตอนเล่นสดแล้วทำให้ติดใจจนถึงทุกวันนี้ กีตาร์กลองรับส่งกันกับเบสพุ่ง ๆ ชวนโดดกันตั้งแต่ต้นเพลง ซินธ์บาง ๆ ที่เลือกเสียงมาได้เพราะ กับกีตาร์ไลน์นึงที่เล่นสับคอร์ดแบบ skank ในเพลงเร็กเกทำเอาเราเบิกตาโพลง ท่อนคอรัสก็ชวนร้องตามได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าเป็นเพลงอัพมู้ดที่มีประสิทธิภาพ ท้ายเพลงสาดเอฟเฟกต์พร่าหูกันจนหัวสั่น
Made in…
ดนตรีน่าสนใจสุด ๆ เปิดมาได้ซาวด์กีตาร์ฟีล The Smiths, The Cure กับวิธีการร้องที่ดิบ ๆ หน่อย ทำนองสนุก เล่นล้อไปกับเบสที่คลออยู่ข้างหลัง ช่วงเข้าสู่การเปลี่ยนท่อนก็เหมือน up lift ทุกอย่างให้กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา เหมือนเพลงนี้เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีท่อนเวิร์สหลักที่ยึดไว้ให้วนกลับมาอีกรอบ ที่เราชอบมากก็หนีไม่พ้นลูกเล่นนีโอไซเคเดลิกที่โผล่มาแว้บ ๆ ทำเอาเหวอ กีตาร์ท้ายเพลงก็แสนจะเพราะ สดชื่นมาก ๆ รู้สึกฟังสนุกแบบเพลงดูสั้นไปเลย ต้องกดวนซ้ำอีกสักรอบ
Real Song
เพลงช้าที่ขึ้นมาด้วยกลองฟุ้ง ๆ ก่อนจะเข้าซาวด์กีตาร์สไตล์ Door Plant และการร้องแบบผ่อนเสียง แต่ก็มีความดิบสืบเนื่องจากเพลงก่อนหน้า แล้วจังหวะเครื่องดนตรีตอนมาผสานกันคือเท่มาก ว่ากันตามตรงเรารู้สึกว่าเพลงช้า เพลงจังหวะกลางในชุดนี้ วงสามารถนำเสนอซาวด์ดีไซน์ออกมาได้น่าสนใจและน่าฟังแทบทุกเพลง
Halohola
น่าจะเป็นเพลงที่นำเสนอความเป็นอิเล็กทรอนิกมากที่สุดในบรรดาเพลงอื่น ๆ โดดเด่นจัดจ้านด้วยซินธิไซเซอร์และลูกกรูฟสไตล์นีโอไซเคเดเลีย ชวนนึกถึงเพลงชิลเวฟแบบ Toro Y Moi, Washed Out ชุดแรก ๆ มาก ไลน์ซินธ์หลักที่เดินทำนอง สอดประสานมาด้วยกีตาร์ในท่อนถัดมารับส่งกันได้ดีมาก รวมไปถึงเสียงคอรัสชวนฟังสบายสุด ๆ เป็นหนึ่งในเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มเลย
Bye Bye Bye
ปิดท้ายกันไปด้วยเพลงน่ารักจังหวะผ่อนคลายเป็น hypnagogic pop เสียงใสชวนให้เอนกายพัก แอบมีเสียงลูกเล่นอิเล็กทรอนิกอนาล็อก เสียงเอคโค่ชวนเมาแทรกเข้ามาเป็นระยะ ๆ ถึงจะเป็นเพลงสุดท้าย แต่มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาไม่ปล่อยให้เป็นเพลงช้าธรรมดา ๆ แน่นอน
ใครฟังจบแล้วเกิดติดใจ อย่าลืมตามไปเชียร์พวกเขาที่ DOOR PLANT “DROWSINESS OF DOEK” Album Launch Party รับประกันความสนุกโดยเราเอง แล้วยังมีวงเพื่อน ๆ ทั้ง SURFF และ Bellythebear มาแจมด้วย เจอกัน 28 เมษายนนี้ ที่ Lido Connect ซื้อบัตรได้ที่ https://ticketmelon.com/sss/doorplant