THE WHITEST CROW’s ONE DRINK AND WE GO _ ? คืนเดบิว ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’ แบบซ่องแตกสุด

หลังจากที่เล่นคอนเสิร์ตฝั่งตัวเองเสร็จ เราก็รีบพุ่งมาที่ไลฟ์โชว์ของ The Whitest Crow วงร็อกที่เปรี้ยวที่สุดใน genie records ณ ขณะนี้ โดยงานคอนเสิร์ตกึ่งแฟนมีตที่จำกัดจำนวนผู้เข้าชมด้วยการลงทะเบียนสุ่มผู้โชคดีรอบนี้เขาไม่ได้ตั้งชื่อว่า Crow Night แบบรอบแรกที่ DeCommune เพราะเขาตั้งใจทำให้มันเป็นปาร์ตี้เปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’ กันที่ Blueprint Livehouse ในชื่อ THE WHITEST CROW’s ONE DRINK AND WE GO ___ ? พร้อมกับมีเดรสโค้ด ชมพู ‘หวานเป็นลม’ ดำ ‘ขมเป็นบ้า’ กันได้ฟีลแบบงาน Zaap กันไปเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้ตั้งใจใส่สีชมพูดำมาจากบ้าน แต่เกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ปรากฏว่าแมตช์กับธีมงานพอดี

เรามาถึงที่ไลฟ์เฮาส์ตอนประมาณสามทุ่มยี่สิบ ซึ่งแน่นอนว่าพลาดกับดีเจเซ็ตของ Bookythestrider ไปอย่างน่าเสียดาย บุ๊ก คือช่างภาพขวัญใจชาวอินดี้ที่มักไปปรากฏตัวในมิวสิกวิดิโอตัวมัน ๆ หรือกลางแดนซ์ฟลอร์ในฮอลคอนเสิร์ต แล้วก็สนิทกับทางวงจนได้รับการไว้วางใจให้มาบิลด์ความสนุกกันก่อนเริ่ม

ตอนที่ก้าวขาเข้ามาในฮอล เราก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปเพราะวงกำลังเล่นช่วงท้ายของเพลง ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’ ที่เราอยากฟังสุด ๆ อยู่พอดี เพราะขนาดในออดิโอยังเท่ขนาดนั้นแล้ว เวลาเล่นสดต้องสนุกมากแน่ ๆ แต่เป็นอันพลาดไปอย่างน่าเสียดาย

วงทักทายแฟนเพลงที่คลาคล่ำแน่นพื้นที่ ถามว่าใครเคยฟัง ‘Bangkok Blondie’ กันบ้างหรือเปล่า อุณหภูมิร้อนระอุขึ้นด้วยความสนุกจากเพลงในอัลบั้มชื่อเดียวกัน จากนั้นก็เป็นเพลง ‘I.C.S.T.O.Y’ ที่เรากับวงตัวเองเพิ่งร้องเล่นกันไปเป็นการวอร์มรอขึ้นเวที

จากนั้นวงก็บิลด์ไกด์ให้ทุกคนเตรียมเข้าเพลงต่อไป โดยพวกเขาจะร้องว่า ‘มี’ ให้คนดูร้องกลับว่า ‘สัม’ นั่นก็คือเพลง ‘สำเร็จความเศร้าด้วยตัวเอง’ ที่ทุกคนคุ้นเคยในชื่อว่า มีสัม ไปเป็นที่เรียบร้อย ต่อด้วยเพลงจังหวะมัน ๆ ไม่ให้พัก รู้ก็เหมือนไม่รู้ จากดับเบิ้ลซิงเกิ้ลห้าสิบ และ ‘GIVE UP ON LOVE’ จากอัลบั้ม ‘Bangkok Blondie’

ต่อกันด้วยเพลงรักเจ็บ ๆ จึ้ก ๆ ‘แทงรัก’ ในยุคหลังที่วงเข้าค่ายและทำเพลงภาษาไทยมากขึ้น ซึ่งแฟนเพลงก็ร้องตามได้ และเพลง  ’FEATHER BUREAU’ สุดเท่จากโปรเจกต์ชื่อเดียวกัน และ ‘THE LAST LITTLE PIECE’ สีสันดนตรีและพลังงานในทั้งสองเพลงนี้มันทำให้เลือดในตัวเราสูบฉีดได้ตลอดจริง ๆ ฟังแล้วฮึกเหิมสุด ๆ

เติ้ล นักร้องนำ ถามว่าใครเคยฟังวงเล่นอะคุสติกบ้าง มีแฟนเพลงช่วยยกมือแล้วเขาก็บอกว่า “ไม่จริงครับเราไม่เคยเล่น” แล้วก็เดินลงมาพร้อมกับกีตาร์โปร่ง ซึ่งคนดูแฟวกทางโดยอัตโนมัติ ไฟฟอลโลวส่องมาบนตัวเขาโดยมีแฟนเพลงร้องเพลง ‘แม้เธอไม่อยู่’ คลอไปเสียงเบาในบรรยากาศซึม ๆ แต่อบอุ่น จนจบฮุก วงก็ค่อย ๆ ประสานเครื่องดนตรีชิ้นอื่น ๆ เข้ามาทำให้เติ้ลเดินขึ้นกลับไปร้องครึ่งเพลงหลังแบบฟูลแบนด์ ซึ่งก็ทำให้อารมณ์เพลงเข้มข้นไปอีกแบบ

แล้วเขาก็แซวตัวเองว่ามีคนชอบที่วงทำเพลงสนุก ๆ พวกเขาเลยเล่นเพลงที่ยังไม่ปล่อย ‘I ROCK YOU’ ให้ได้ลองกันฟัง พอเล่นจบก็ถามว่าชอบไหม ส่วนตัวเรามองว่าเพลงนี้มีส่วนผสมของวงร็อกไทยปีสองพัน แล้วก็ใส่กลองเร็กเกตอน จังหวะละติน ๆ แบบที่วงกำลังอินเข้ามาทำให้มันเป็นส่วนผสมความป๊อปไทยและความอินเตอร์ที่น่าสนใจมาก รวมถึงมีท่อนให้คนดูได้ตะโกนตามคิดว่าถ้าเพลงปล่อยออกมาจนคนรู้จักดีแล้วจะเป็นอีกเพลงที่เล่นสดได้สนุกแน่ ๆ

จบแล้วเติ้ลเลยแซวว่าจริง ๆ แล้วทุกคนชอบเพลงเศร้ากันใช่ไหมล่ะ พออินโทรเพลง ‘บ่อน้ำตา’ ขึ้น เท่านั้นแหละ ฮอลแทบแตกเพราะทุกคนร้องได้กันหมดและอินสุดแม้จะไม่ได้อกหักก็ตาม พลังงานดีมาก ๆ และเพลงก็เพราะมาก ๆ ด้วยเช่นกัน ช้ำกันต่อในงานภาษาอังกฤษจากชุดก่อน ๆ ‘FOREVER HIDE & SEEK’ และ ‘LITTLE FOX’ ก่อนจะไปต่อที่เพลงที่เราเพิ่งตั้งใจฟังสด ๆ แล้วพบกับความไพเราะลงตัวกลมกล่อมทั้งทางเสียงและอารมณ์ใน ‘ดอกไม้ในหนังสือหน้าที่ 75’ และปิดท้ายกันไปด้วยเพลง ‘ไม่เป็นไร’ อีกบทเพลงสำคัญของเราและอดีตเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนซึ่งก็เป็นเพื่อนกับวงที่ต้องผ่านประสบการณ์ที่ยากสุดอย่างนึงในชีวิตมาด้วยกัน และเพลงนี้ก็เป็นแรงพลังให้เรามีกำลังใจเดินต่อไปในทางที่เชื่อ ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกกับเพลงนี้ยังไง แต่สำหรับเรา ไม่ว่าวงจะเล่นเพลงนี้อีกกี่หน มันก็จะยังมีความหมายกับเรามากเสมอ

เพลงจบ อารมณ์ไม่จบ เมื่อคนดูไม่ยอมให้วงลงจากเวทีรีบอังกอร์กันทันควัน พวกเขาก็จัด ‘BE WITH YOU’ ให้และปิดท้ายกันไปที่ ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’ reprised ให้คนที่ไม่ทันดูอย่างชั้นได้มันกันอีกรอบ โอ้โห เพลงนี้เล่นสดแล้วมันเดือดจริง ๆ ทั้งความแบ็กกี้ เร็กเกตอน ท่อนแร็ปและลูกบ้าที่ทำให้ทุกคนกระโดดไปรอบ ๆ สะใจชะมัด

จบของจริง เติ้ลมายืนแจกโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นสมาชิกวงในบรรยากาศเหมือนรับปริญญา ซึ่งก็มีแฟนเพลงเอาฮาช่วย role play ไปด้วย ก่อนที่ดีเจ S.O.L.E. หรือก็คือเติ้ลนั่นแหละที่ขึ้นมาประจำการ เปิดเพลงแซบ ๆ มัน ๆ ให้เราได้เต้นกันต่อ จากนั้นก็ส่งไม้ให้ดีเจบุ๊กกี้รับหน้าที่ต่อ ประมาณเที่ยงคืนก็มีเซอร์ไพรส์วันเกิดของเจ้าตัวแบบอุ่น ๆ เป็นอันเสร็จพิธีสุดสนุกในวันนี้

หวังว่าเราจะมีโอกาสได้ดู The Whitest Crow อีกในเร็ววันนี้ รวมถึงได้ฟังอัลบั้มของพวกเขาเร็ว ๆ เพราะจากงาน ONE DRINK AND WE GO ___ ? วันนี้แล้ว พิสูจน์ได้ว่าแฟนเพลงรอพร้อมสนับสนุนไม่ว่าวงจะทำเพลงออกมาในทิศทางไหนอย่างแน่นอน ส่วน Blueprint Live House ก็จะมีไลฟ์อีเวนต์มาให้เราได้ติดตามกันอยู่เรื่อย ๆ ตลอดปี ไปฟอลโลวรับข่าวสารจากพวกเขาได้เลย